เริ่มต้นขึ้นจาก คุณ ณัฐนวรรธ ศักดา หรือคุณต้น  เป็นผู้ริเร่มเข้าไปบุกเบิก กิจการแพพัก, ที่พัก ในเขื่อนเชี่ยวหลาน ตั้งแต่ พ.ศ. 2545 หลังจากที่เค้าเพิ่งเรียนจบ ป.ตรี จากรั้วมหาวิทยาลัย เซนต์จอห์น ย้อนเวลากลับไป 10กว่าปีก่อน ที่เขื่อนรัชชประภาหรือเขื่อนเชี่ยวหลาน ยังไม่ได้เป็นที่รู้จักในนามของแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสวยงามและมีความสมบูรณ์ของธรรมชาติอันดับต้นๆของเมืองไทยอย่างเช่นทุกวันนี้

​

เด็กหนุ่มที่พึ่งจบปริญญาตรี จากชีวิตนักศึกษารั้วมหาวิทยาลัยในกรุงเทพ ผันชีวิตตัวเองเข้าสู่ธุรกิจด้านการท่องเที่ยวในเขื่อนเชี่ยวหลานแห่งนี้ ด้วยการ รับมอบสิทธิ์สัมปทาน ปลูกสร้างแพไม้ไผ่หลังเล็กๆ แบบเรียบง่าย โดยการนำภูมิปัญญาชาวบ้าน มาปรับใช้เพื่อออกแบบที่พักในการรองรับนักท่องเที่ยว ที่ ณ.ขณะนั้นคือ “แพเชี่ยวหลานและแพต้นน้ำ”บริเวณ “คลองโหลง”  ในอ่างเก็บน้ำเขื่อนรัชชประภา จ.สุราษฎร์ธานี  โดยได้ใช้ชีวิตเรียนรู้อยู่บนผืนน้ำท่ามกลางธรรมชาติของเขื่อนเชี่ยวหลาน จนเวลาล่วงผ่านไปถึงประมาณปีพ.ศ.2556 ยุคที่เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของเขื่อนเชี่ยวหลาน การเจริญเติบโตการขยายตัวอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทย ซึ่งณ.ขณะนั้น นับวันก็ยิ่งเจริญเติบโต ทางกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้มีการจัดระเบียบและพิจารณาอนุญาตให้ ภาคเอกชนสามารถเข้ามายื่นแบบแปลนแจ้งความประสงค์ ขอดำเนินกิจการสร้างแพที่พักเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ในพื้นที่อ่างเก็บน้ำเขื่อนเชี่ยวหลานหรือเขื่อนรัชชประภาอุทยานแห่งชาติเขาสก จ.สุราษฎร์ธานี ขึ้นเป็นครั้งแรก หลังจากที่มีการอลุ่มอล่วยให้ชาวบ้านในพื้นที่ ได้เข้าไปดำเนินกิจการ แพพักแบบธรรมชาติง่ายๆมาหลายสิบปี นับตั้งแต่ที่มีการสร้างเขื่อนเสร็จสิ้น ได้มีการทำการวิจัยสำรวจ ขีดความสามารถในการรองรับของพื้นที่ หรือที่เรียกเป็น ทฤษฎีตามหลักวิชาการว่า Carrying Capacity ( CC ) ก่อนที่จะกำหนดให้มีผู้ประกอบการแพที่พักในเขื่อนเชี่ยวหลานได้ จำนวน11 แพ โดยมีเงื่อนไข ตามที่กรมอุทยานแห่งชาติเป็นผู้กำหนด โดยได้พิจารณาอนุญาตให้สิทธิ์กับผู้ประกอบการที่สร้างแพอยู่เดิมก่อนหน้านั้นแล้ว จำนวน7รายก่อน แล้วจึงพิจารณาแบบอื่นๆตามมาภายหลังรวมเป็น12ราย. แพพันวารีย์ ซึ่งได้สิทธิ์จากแพเดิมหรือ ."แพต้นน้ำ" ที่คุณ ณัฐนวรรธ ศักดา (ประกอบการอยู่เดิม) หลังจากนั้นจึงได้มีการเริ่มก่อสร้างแพแบบใหม่ที่ต้องได้มาตราฐานตามระเบียบของกรมอุทยานกำหนด  เมื่อสร้างเสร็จขึ้นมาใหม่ ก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็นแพพันวารีย์ รีสอร์ท คล้ายกับชื่อของคุณแม่ของคุณ ณัฐนวรรธ ศักดา คือ คุณวารี ศักดา เนื่องจากคุณ ณัฐนวรรธ ศักดา หรือคุณต้น มองว่าคุณแม่คือบุคคลสำคัญที่ให้ตนหยิบยืมเงินสร้างแพส่วนที่เหลือได้สำเร็จ ท่ามกลางเสียงต่อต้านของครอบครัวมาอย่างยาวนานเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจนี้  จนเมื่อปีพ.ศ. 2556 แพพันวารีย์ รีสอร์ท โซนแรก ก็สร้างเสร็จโดยได้ลากไปตั้งบริเวณ “ปากคลองโหลง”ซึ่งเป็นคลองเดิมที่แพต้นน้ำตั้งอยู่ ในอ่างเก็บน้ำเขื่อนรัชชประภา จ.สุราษฎร์ธานี  เป็นบริเวณที่มีความเป็นธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ เงียบสงบและมีทัศนียภาพที่งดงามมากๆ