top of page
หัวเว็บ00105.png

ชื่อนี้มีที่มา ตามหาจุดกำเนิดทะเลใน 500 ไร่

สำหรับใครที่นึกฝันถึงการผจญภัยเล็ก ๆ ท่ามกลางบรรยากาศบริสุทธิ์ งดงามของผืนน้ำ ภูเขา และท้องฟ้า ...เขื่อนเชี่ยวหลาน... น่าจะเป็นจุด หมายปลายทางในฝัน ตอบโจทย์นักเดินทางที่ต้องการหลบความ วุ่นวายของเมืองใหญ่ มาพักใจให้ธรรมชาติช่วยเยียวยาและปลอบโยน

และใครที่มาเยี่ยมเยือนเขื่อนเชี่ยวหลาน ก็คงไม่พลาดที่จะไปแวะชม “ทะเลใน 500 ไร่” ทะเลสาบปิดที่โอบล้อมด้วยหมู่เขาหินปูน 360 องศา ท้าทายให้นักเดินทางต้องดั้นด้นพาสองเท้าก้าวข้ามป่าผืนกว้าง เพื่อจะ ได้สัมผัสภาพของเวิ้งน้ำสีเขียว Viridian นิ่งสงบ และโลกที่ดูจะหมุน เพียงช้า ๆ ให้เราได้ซึมซับภาพความสวยงามของธรรมชาติได้อย่างเต็มที่

untitled-1140.jpg

หลายคนอาจจะเคยตั้งคำถามถึงจุดกำเนิดของ “ทะเลใน 500 ไร่” ว่า ทำไมถึงกลายเป็นทะเลสาบขนาดเล็กที่ซ่อนอยู่ในทะเลสาบเชี่ยวหลาน อันกว้างใหญ่อีกที และสำหรับคำตอบนั้น คงต้องย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ. 2529 ซึ่งเป็นปีที่เริ่มมีการปิดกั้นลำน้ำคลองแสง เพื่อกักน้ำให้ค่อย ๆ ท่วมพื้นที่สองฝั่งคลองร่วมแสนกว่าไร่ กลายเป็นอ่างเก็บน้ำเขื่อนเชี่ยว หลานหรือเขื่อนรัชชประภาที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน

ใต้ผืนน้ำสีเขียวใสที่เราเห็นนั้น เดิมคือชุมชนและหมู่บ้านที่ผู้คนต้องพา กันอพยพจากไปตั้งถิ่นฐานใหม่ และคือผืนป่าอุดมสมบูรณ์ของอุทยาน แห่งชาติเขาสกและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสง ซึ่งเคยเป็นบ้านของสัตว์ป่าหลายร้อยสายพันธุ์ หลายชีวิตในนั้นเป็นสัตว์ป่าหายากหรือใกล้ จะสูญพันธุ์ไปจากประเทศ

S__28491779.jpg

ในตอนนั้น แม้ว่าทีมอพยพสัตว์ป่าจะสามารถช่วยให้พวกเขาบางส่วน รอดจากการจมหายไปกับน้ำ แต่ก็เหลือเพียงไม่มากที่สามารถปรับตัว อยู่รอดในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป ช้างป่า และ กระทิง บิ๊กเบิ้มแห่งพงไพร จะเหลือรอดอยู่เท่าไหร่ เมื่อ แหล่งหากินที่เคยกว้างขวางครอบคลุมสองฝั่งคลองแสง ถูกจำกัดพื้นที่ เหลือเพียงนิดเดียว เลียงผาหลายตัว ต้องทนอดอาหารและไร้ที่หลบภัย นานเกินกว่าจะมี ชีวิตรอด  สมเสร็จตัวหนึ่ง ถูกพบเหลือเพียงซาก หลังเสียงลั่นไกของนายพรานป่า ผู้ฉวยโอกาสออกล่าในช่วงเวลาที่สัตว์เหล่านี้กำลังอ่อนแออย่างที่สุด

เช่นเดียวกับพื้นที่ทะเลใน 500 ไร่ ซึ่งความอุดมสมบูรณ์ในอดีตฝังตัว เองกลายเป็นความทรงจำอยู่ใต้ผืนน้ำจนถึงทุกวันนี้เช่นกัน แต่เดิมนั้น พื้นที่นี้คือผืนป่าเขียวขจี รวมถึงสวนผลไม้ของชาวบ้านที่ทำการเกษตร เพื่อยังชีพ ด้วยลักษณะเป็นแอ่งที่มีภูเขาล้อมรอบทุกทิศทาง ดังนั้น ใน ตอนที่ระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำเชี่ยวหลานค่อย ๆ ท่วมสูงขึ้น น้ำจึงค่อย ๆ ไหลผ่านร่องหลืบของภูเขาหินปูนที่เป็นเพียงซอกแคบ ๆ เล็ก ๆ เข้าเติม แอ่งผืนป่าขนาด 500 ไร่นี้จนเต็ม โดยยังคงเหลือยอดเขาโผล่พ้นน้ำรอบ ด้าน กลายเป็นทะเลสาบปิดที่อยู่ด้านใน ไม่เชื่อมต่อกับทะเลสาบเชี่ยว หลานรอบนอก และเป็นที่มาของชื่อ “ทะเลใน 500 ไร่”

ทั้งหมดนี้ จึงเป็นที่มาของเรื่องเล่าขานเกี่ยวกับความเสียสละของผู้คน และสรรพสัตว์น้อยใหญ่ รวมถึงการยอมสูญเสียแหล่งพันธุกรรมและ ความหลากหลายทางชีวภาพที่สำคัญยิ่ง เพื่อให้ได้เขื่อนที่ยังประโยชน์ มหาศาลแก่พวกเราในปัจจุบัน และยังกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวทาง ธรรมชาติที่ได้รับการยกย่องว่ามีความสวยงามติดอันดับโลก

 ทุกวันนี้ “ทะเลใน 500 ไร่” เป็นที่รู้จักและเป็นหนึ่งในโปรแกรมท่อง เที่ยวห้ามพลาดของเขื่อนเชี่ยวหลาน เสน่ห์ของทะเลสาบแห่งนี้อยู่ตรงที่ ว่า ไม่มีเรือลำไหนสามารถล่องเข้าไปถึงได้ นักท่องเที่ยวจะต้องจ่ายค่า ผ่านทางเล็ก ๆ น้อย ๆ ด้วยการออกเดินตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ประมาณ 1.5 กิโลเมตร ซึ่งนอกจากจะเดินง่าย ลุยด้วยกันได้ทั้ง ครอบครัวแล้ว ยังมีโอกาสได้เห็นสัตว์ป่าตัวเล็ก ๆ ออกมาทักทาย ระหว่างทางด้วย

เมื่อเส้นทางเดินป่าสิ้นสุดลง รางวัลตอบแทนที่รออยู่ตรงหน้าก็คือภาพ ของเวิ้งน้ำสีเขียว Viridian โอบล้อมด้วยหมู่เขาหินปูนรอบทิศ ระดับน้ำ ในทะเลในแห่งนี้ จะไม่ต่างจากในทะเลสาบรอบนอก เช่นเดียวกับสีสัน เขียวใสสว่างของน้ำ ก็เกิดจากแคลเซียมคาร์บอเนตที่ถูกกัดเซาะจากตัว เขาหินปูนลงมาอยู่ในน้ำ ก่อนจะสะท้อนกับแสงอาทิตย์จนเกิดเฉดสีน่า อัศจรรย์

DSC02985.jpg